Sunday, 19 May 2024
นอร์ทไทม์

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ลงพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดตาก

เช้าวันนี้ (26 มี.ค. 2566) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ลงพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดตาก ช่วย ผู้สมัคร เขต 1 นาย ประสงค์ นามเสถียร ผู้สมัคร สส.เขต1 พรรคพลังประชารัฐ ปราศรัยหาเสียง เเห่ไปรอบเมือง พร้อมกับพบปะ พี่น้องประชาชน ที่มาจับจ่ายซื้อของที่บริเวณ ตลาดวังหิน เทศบาลเมืองตาก เเละเปิด เวที รับฟัง ความเห็นจากประชาชน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

 

โดย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค พลังประชารัฐ เผยว่า “วันนี้พรรคพลังประชารัฐ พร้อมที่จะ ปักธง จังหวัดตาก ทั้ง 3 เขต ยกจังหวัด พื้นที่ตาก เป็นพื้นที่ เดิมที่ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ดูแลอยู่ ซึ่ง ลุงป้อม พลเอกประวิตร ได้มอบหมายพื้นที่ภาคเหนือให้ท่านธรรมนัสเป็นคนดูแล ซึ่งวันนี้จังหวัดตาก ท่านธรรมนัสก็จะเข้ามาช่วยประสานงานเข้ามาดูแลด้วยเพราะว่าก็มีความคุ้นเคยกับ พื้นที่เป็นอย่างดี โดยเฉพาะคนที่ถูกขับออกจากพรรคไป ท่านธรรมนัสก็รู้จักเป็นอย่างดีก็จะลงมา แก้ปัญหาในพื้นที่นี้เพื่อเอา เก้าอี้ส.ส.กลับมาที่พรรคพลังประชารัฐเหมือนเดิม วันนี้ ผมเเละพี่ธรรมนัส พรรคพลังประชารัฐ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ตั้งมั่นที่จะสู้พื้นที่ จังหวัดตาก เพื่อให้ได้ ส.ส. ครบทุกเขต โดยรอบที่แล้วมี 3 เขต พลังประชารัฐได้ 2 เขต

 

นายชัยวุฒิยังได้กล่าวอีกว่า “เราเชื่อมั่นว่า จะทําให้ได้ทั้งจังหวัด ก็ขอการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนทุกคนด้วยโดยเฉพาะลุงป้อม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ท่านก็มีความผูกพันกับชาวจังหวัดตากมาทํางานที่นี่ในพื้นที่โดยตลอดทั้งเรื่องการพัฒนาแหล่งน้ำ การส่งเสริม อาชีพต่าง ๆ ของพี่น้องเกษตรกร และทุกกลุ่ม รวมถึงเรื่องที่ดินทํากิน เป็นเรื่องใหญ่ซึ่งเป็นปัญหาสําคัญของชาวจังหวัดตาก เราก็มีโครงการ ธนาคารที่ดิน มาแก้ปัญหาที่ดินให้พี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ถ้าเราได้ ส.ส.ทั้งสามคน ในจังหวัดตากก็จะมาช่วยกันผลักดันโครงการต่าง ๆ แก้ปัญหาชาวจังหวัดตากให้สําเร็จให้ได้”

 

ทั้งยังมีการเน้นย้ำในเรื่องของผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งนายชัยวุฒิได้เล่าว่า “เฉพาะ นายประสงค์ เขตหนึ่ง ก็เป็นความหวังของเราเพราะว่าพื้นที่นี้เราก็เป็น ส.ส. เดิมก็เป็นพรรคพลังประชารัฐแต่เราเปลี่ยนผู้สมัครจะให้นายประสงค์ ลงในนามพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเชื่อว่าจะประสบความสําเร็จแน่นอน ส.ส.เขต 1 เดิม ก็เป็นพรรคพลังประชารัฐ แต่เนื่องจากถูกขับออกจากพรรคไป พอตอนนี้ก็ไปอยู่พรรคภูมิใจไทย เราก็มีผู้สมัครคนใหม่คือนายประสงค์ ซึ่งเป็นคนที่พี่น้องประชาชนก็รู้จักคุ้นเคยดี ถ้าจะประสานงานกับผู้นําท้องถิ่น ผู้นําชุมชน ลงพื้นที่เข้าหาพี่น้องประชาชนทุกบ้าน เพื่อทําความเข้าใจแนะนําตัว และผมเชื่อว่าวันนี้กระแสคนก็อยากเปลี่ยนส.ส.อยากได้คนใหม่เข้ามาทํางาน เพื่อจะได้ประสานงาน ดูแลพี่น้องประชาชนให้ดียิ่งขึ้น”

 

ด้านนายประสงค์ นามเสถียร ผู้สมัคร สส.เขต1 จังหวัดตาก พรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากพี่น้องประชาชน ชาวจังหวัดตาก เพราะพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค มีโครงการที่ทำเเล้วประชาชนชื่นชอบคือ เรื่องน้ำ “มีเราไม่มีเเล้ง” เรื่องที่ดินทำกิน บัตรประชารัฐ สวัสดิการสตรีมีครรภ์ ที่สำคัญ หัวหน้าพรรค พลเอกประวิตร ท่านเป็นทหาร ที่ชาวตากรัก สมัยท่านเป็นผู้บังคับบัญชาทหารบก ก็ดูเเลพื้นที่เเนวชายแดน จ.ตาก ให้ความสำคัญเรื่องปัญหา ยาเสพติด ผมเชื่อมั่นว่าด้วยพรรคเเละหัวหน้าพรรค พร้อมนโยบายที่ดี จะทำให้ผมมีโอกาส ที่จะได้รับการเลือกตั้งในเขตนี้ เพราะผมพร้อมที่จะสนับสนุนเเละประสานงานกับองค์กรท้องถิ่นเเละผู้นำท้องถิ่นทุกคนครับ ที่สำคัญผมมีความตั้งใจที่จะมาพัฒนาบ้านเกิดเมืองของพระเจ้าตากอย่างเเท้จริงครับ

พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่ที่จังหวัดกำแพงเพชร

วันที่ 26 มี.ค. 2566 - พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่ที่จังหวัดกำแพงเพชร ที่ลานตลาดนัดวันอาทิตย์ อ.เมือง นําโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และนายวราเทพ รัตนากร กรรมการฝ่ายนโยบาย

 

โดยมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร จ.กำแพงเพชร ทั้ง 4 เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน ประกอบไปด้วย นายสุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์ นายไผ่ ลิกค์ เขต 1,นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ เขต 2 นายอนันต์ อำนวยผล เขต 3 นายปริญญา ฤกษ์หร่าย เขต 4

 

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ฝากไปบอกพรรคอื่นด้วยว่า อย่าคิดมาตีจังหวัดกำแพงเพชร มันเป็นไปไม่ได้ เพราะเราจะสร้างป้อมหน้ากำแพงเพชร ใครเข้ามาเรามีป้อม เราจะกันให้หมด ซึ่งพรรคหัวหน้าพรรคเราชื่อ ลุงป้อม เอาสิ เราจะตั้งป้อมหน้ากำแพงเพชร ไม่ให้ใครมาตีกำแพงเพชรให้ได้ นโยบายสำคัญของเราคือการก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่เอาแล้วสีเหลืองสีแดง สีน้ำเงิน ประเทศไทยต้องเป็นหนึ่งเดียว เรามีธงชาติธงเดียวสามสี แดงขาวน้ำเงิน สามเสาหลักต้องอยู่คู่บ้านคู่เมือง ดังนั้นเราจะก้าวข้ามความขัดแย้งนำประเทศไทยไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งอย่างยังยืน

 

“พรรคอื่นอย่าคิดเข้ามาตีกำแพงเพชร เพราะจังหวัดนี้เป็นของพรรคพลังประชารัฐ”

 

จากนั้น เวลา 17:57 น. พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางมาถึงบริเวณเวทีปราศรัย ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีกระแสข่าวว่าป่วยต้องให้หมอเข้าไปรักษา ในบ้านป่ารอยต่อว่า ไม่ได้ป่วย ยังแข็งแรงดี พร้อมย้อนถามผู้สื่อข่าวว่าใครเป็นคนบอก จากนั้นได้เดินทักทายประชาชน พร้อมขึ้นรถยกไฮดรอลิก เมื่อถามว่า หวาดเสียว หรือไม่ พล.อ.ประวิตรระบุว่าไม่เสียวโดดลง ยังได้

 

พล.อ.ประวิตร ได้ขึ้นเวทีปราศรัยกล่าวกับประชาชนว่า ตนรู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมากที่ได้มาอยู่ท่ามกลางชาวจังหวัดกำแพงเพชร เราจะทำทุกอย่างเพื่อจะก้าวข้ามยากจน พวกเราพร้อมแล้วที่จะมาทำงานให้กับชาวกำแพงเพชร เราจะร่วมมือกันที่จะพัฒนาจังหวัดกำแพงเพชรให้เจริญอย่างยั่งยืน พรรคพลังประชารัฐได้คัดสรรคนดี คนเก่งที่จะมาเป็นตัวแทนของประชาชน ขอให้เลือกผู้สมัครของเราทั้ง 4 คนด้วย

 

“ขอโอกาสจากทุกคน เราจะนำความรัก ความสามัคคีมาสู่ประเทศชาติหมดเวลาแล้วที่คนไทยจะมาทะเลาะกันเอง ต้องจับมือกัน นำประเทศไปสู่ก้าวหน้า เพื่อความสงบของคนไทยทุกคน ฝากกับทุกคนว่า ถ้าอยากให้ประเทศมีความรัก สงบสุข สันติภาพเกิดขึ้น และมีความเป็นหนึ่งเดียวต้องเลือกพรรคพลังประขารัฐเท่านั้น ผมพูดไม่เก่ง แต่ทำงานประสานเพื่อประโยชน์ของประชาชนได้ และนำพาคนเก่ง ๆ มาทำงานให้กับประชาชนได้”

 

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้ลงเวทีทางบันได เมื่อถามว่า ได้เห็นผลสำรวจของนิด้าโพล ถึงคนกรุงเทพฯ ที่ ไม่ปรากฏชื่อตนอยู่ในลิสต์ 10 อันดับแรกว่าอย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เขาเอาชื่อออก ๆ และให้ไปถามคนจัดโพลเอง และยืนยันไม่สูญเสียความมั่นใจ และไม่ต้องปรับยุทธศาสตร์อะไร พร้อมยืนยันว่ากระแสนิยมของตนนั้นดีขึ้นตลอด ส่วนผลโพล เชื่อได้หรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตรระบุว่า ก็ว่ากันไปเรื่องของโพลก็คือเรื่องของโพล และมั่นใจในกระแสของตัวเองและประชาชน

 

ส่วนพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 หรือไม่นั้นให้เป็นเรื่องของประชาชนเลือก หากประชาชนเลือกก็พร้อม ก่อนที่จะย้อนสื่อมวลชนว่าคุณเลือกหรือไม่ ส่วนกระแสข่าวที่มีรายชื่อ 100 อันดับแรกปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคพลังประชารัฐหลุดออกมาแล้ว พล.อ.ประวิตร บอกว่าไม่รู้ ส่วนจะมีการปรับอีกหรือไม่ พล.อ.ประวิตรระบุจะปรับได้อย่างไรเขาทำไพรมารีโหวตกันแล้ว

 

เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ที่พึ่ง สละสิทธิ์ในลำดับปาร์ตี้ลิสต์หรือยัง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ให้คุยเรื่องอะไร เขาสมัครใจออกเอง เค้าไม่น้อยใจหรอก เมื่อถามว่าอาจารย์แหม่มงอนหรือไม่ พล.อ.ประวิตร หันหน้ามาหาผู้สื่อข่าว และระบุว่า ไม่งอนไม่งอน

 

เมื่อถามว่าจากรายชื่อที่ พล.อ.ประวิตรเป็นอันดับหนึ่งของบัญชีรายชื่อนั้นพร้อมที่จะทำงานในสภาแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า "ไม่รู้"

 

สำหรับบริเวณหลังเวทีการปราศรัย นายไผ่ ลิกค์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กำแพงเพชรเขต 1 และ ร.อ.ธรรมนัส ได้ทดลองขึ้นลิฟท์เคลื่อนที่ รถยกไฮดรอลิก เพื่อนำพลเอกประวิตรขึ้นเวที พร้อมการันตีว่ามีความแข็งแรง

 

นายชัยวุฒิกล่าว

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่ลานตลาดนัดวันอาทิตย์ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้กล่าวปราศรัยบนเวทีของพรรค พปชร.ว่า บางคน บางพรรคยังพูดถึงโครงการเก่าในอดีต

 

โดยไม่ดูบริบทการเมือง เปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว ผมลงพื้นที่สงสารพี่น้องประชาชน บางพรรคยังพูดถึงกองทุนหมู่บ้านนโยบายเมื่อ 20 ปีที่แล้วซึ่งที่ตนเองได้ลงพื้นที่นั้น ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกันมากจากกองทุนหมู่บ้าน พรรค พปชร.จะยกเลิกกองทุนหมู่บ้าน ประชาชนจะได้ไม่ต้องเป็นหนี้

 

นายชัยวุฒิกล่าวต่อว่า เพราะเป็นกองทุนที่สร้างหนี้ให้กับประชาชน จะได้ไม่ต้องสร้างหนี้ให้กับประชาชน เราต้องมองอนาคต ต้องมองนโยบายของพรรคการเมืองที่ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ พร้อมมองว่ามีบางพรรคการเมืองได้คิดนโยบายที่ไกลเกินไป การเลือกตั้งนั้นให้มาเปลี่ยนรัฐบาล แต่อยากเปลี่ยนประเทศไทย คุณทำได้ไหม

 

“ถ้าคนเราเห็นว่าโลกที่เราอยู่มันไม่ดีและมีปัญหาแล้วอยากเปลี่ยนโลกนั้น มีแต่คนบ้าเท่านั้นเพราะโลกเปลี่ยนไม่ได้ แต่ทำให้โลกนี้ดีได้ โดยการตั้งใจทำความดี ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง แต่บางพรรคคิดไกลกว่านั้น ไกลแบบที่รู้ว่าคิดอะไร ไม่อยากเปลี่ยนรัฐบาล อยากเปลี่ยนอะไรวะ แล้วเรายอมให้มันเปลี่ยนไหม เขาปลุกระดม ให้ข้อมูลผิดๆ ทำให้คนแตกแยก ทะเลาะกัน ซึ่งนี่คือนโยบายสำคัญของพรรคพลังประชารัฐที่จะมาก้าวข้ามความขัดแย้ง” นายชัยวุฒิกล่าว

 

นายชัยวุฒิกล่าวด้วยว่า วันนี้ติดตามจากสื่อเห็นว่าโพลต่างๆ ไม่มีชื่อของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่รู้ว่าลืมใส่ หรือลุงป้อมไม่ได้จ่ายเงิน การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งของพวกเรา

 

เพราะเรามีนโยบาย มีความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน และเขาก็จะผลักดันให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อนำนโยบายต่างๆ มาทำประโยชน์ให้กับประชาชน ไม่มีการสืบทอดอำนาจ ไม่มีการเอาเปรียบใคร ทุกอย่างเป็นไปตามประชาธิปไตย

 

"ชัยวุฒิ" เมิน "ทักษิณ" หลังโพสต์ไม่โง่พอดันบิ๊กป้อม เป็นนายกรัฐมนตรี

วันที่ 28 มี.ค.66 พรรคพลังประชารัฐ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีออกมาตอบโต้นายวิรัช รัตนเศรษฐ ผ่านทวิตเตอร์ว่า พรรคเพื่อไทยไม่โง่พอที่จะยกตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้กับ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐว่า พปชร.มีนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้งและไม่ขัดแย้งกับทุกพรรค จึงไม่อยากตอบโต้เรื่องนี้ ซึ่งการทำงานในทางการเมืองมันก็ทำงานตามสถานการณ์ บางครั้งไม่ได้ฉลาดทุกครั้ง ต้องมีบางเรื่องที่ต้องตัดสินใจร่วมกัน 

 

เมื่อถามว่า มองว่าการปรามาสครั้งนี้ ให้รอวันที่ผลการเลือกตั้งออกเลยใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า การเลือกตั้งเป็นเรื่องของประชาชน ยืนยันว่า แต่ละพรรคต่อสู้กันเต็มที่ เสนอนโยบายและลงพื้นที่เข้าหาพี่น้องประชาชน ผู้สมัครแต่ละเขต แข่งกันเต็มที่ไม่มีการจับมือกัน หรือ ตกลงกันว่า ใครจะเป็นรัฐบาลหรือเป็นนายกรัฐมนตรี ทุกอย่างเป็นไปตามกรอบประชาธิปไตย 

 

เมื่อถามว่า แสดงว่าไม่ปฏิเสธที่จะจับมือร่วมรัฐบาลกับใครใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐก้าวข้ามความขัดแย้ง ฉะนั้นไม่มีเงื่อนไขที่จะต้องขัดแย้งกัน อะไรที่เป็นประโยชน์หรือประชาชนยอมรับเราเราก็ทำงานร่วมกันได้อะไรที่เป็นความขัดแย้งหรือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็ก้าวข้ามไป 

 

เมื่อถามว่า การที่อีกฝั่งพยายามปราศรัยว่า ไม่พร้อมจับมือเพราะกลัวเสียคะแนนใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า ไปถามอีกฝั่งจะดีกว่า แต่ละพรรคก็มีแนวคิดและนโยบาย จะมาตอบแทนกันไม่ได้ แต่สำหรับพรรคพลังประชารัฐไม่ได้ขัดแย้งกับใคร และพลเอกประวิตรมีความประนีประนอมสูง มีเหตุมีผล อย่าเอาเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง หรือการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่บรรยากาศในขณะนี้ และเรานำเสนอนโยบายให้ประชาชน เสนอตัวผู้สมัครที่ประชาชนชอบ เอาคนเก่งๆ มาทำงานร่วมกัน ถ้าทุกคนตั้งใจทำความดีหรือได้คนดีๆ มาทำงานประเทศชาติก็เดินหน้าไปได้ หากมัวแต่แบ่งฝ่ายหรือทะเลาะกันประชาชนจะอยู่อย่างไรหมดเวลาทะเลาะกันแล้ว

 

ส่วนเรื่องโพลต่างๆ ยืนยันว่า ตนไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะหลายโพลก็ไม่ได้มีชื่อพลเอกประวิตร ในส่วนของพรรคประชารัฐมีการทำโพลอยู่ ก็มีคะแนนพอสมควรแต่ก็ไม่ถือว่าเป็นอันดับต้นๆ พลเอกประวิตร ต้องใช้เวลาในการหาเสียงอยู่ แต่ก็มีคะแนนนิยมพอสมควร และถึงไม่เป็นนายกในโพล ก็เป็นนายกในใจของประชาชนทุกคนอยู่แล้ว คงไม่ต้องปรับกลยุทธ์อะไรเราก็ทำของเราให้ดีที่สุด

รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ

วันที่ 28 มี.ค.2566 - ที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมด้วย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค สวมเสื้อพรรครวมไทยสร้างชาติให้กับ นายธวัชชัย กันนะพันธุ์ อดีตนายก อบจ.พิษณุโลก

 

ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมี นายหิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรคและแกนนำพรรคภาคเหนือร่วมแสดงความยินดี


นายธวัชชัย เปิดเผยว่า ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ในพรรครวมไทยสร้างชาติหลายๆท่าน เช่น นายพีระพันธุ์ นายเอกนัฏ รวมทั้ง นายหิมาลัย ที่เปิดโอกาสให้ตนเองรับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคในครั้งนี้

 

ซึ่งที่ผ่านมาตนเองมีความตั้งใจที่จะช่วยพรรครวมไทยสร้างชาติมาตลอด เพราะมีความเชื่อมั่นใน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคฯ และผู้ใหญ่ในพรรครวมไทยสร้างชาติ อีกหลายๆท่าน

 

ที่ให้โอกาสและมอบหมายให้ตนดูแลว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทุกเขตในจังหวัดพิษณุโลก ตนเองมีความพร้อมและยินดีเป็นอย่างยิ่ง


“ผมจะทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถให้สมกับที่ได้รับความไว้วางใจ พร้อมจะพัฒนาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้พรรครวมไทยสร้างชาติ ปักธงใน จ.พิษณุโลกให้ได้ทั้ง 5 เขต " นายธวัชชัย กล่าว

ลงพื้นที่ พิษณุโลก 'หมอวรงค์' ชงนโยบาย ปุ๋ยราคาถูก เพื่อปลดหนี้เกษตรกรภายใน 3 ปี

วันนี้ 30 มี.ค. 2566 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี จรยุทธ์จังหวัดพิษณุโลก เปิดเวทีปราศรัยย่อย หลังการประชุมรับฟังความคิดเห็นไพรมารีโหวต เขตเลือกตั้งที่ 1 โดยระบุว่า การกลับมาพบประชาชนครั้งนี้มาในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่เข้าใจปัญหาความเดือดร้อน ภาระค่าครองชีพ และมีทางออกมา ที่จะผลักดันนโยบายค่าไฟ ก๊าซหุงต้ม ปุ๋ยยูเรียราคาถูก เพื่อปลดหนี้เกษตรกรภายใน 3 ปี

 

นพ.วรงค์ กล่าวว่า ทางออกของเกษตรกรที่จะต้องปรับเปลี่ยน คือ การแบ่งพื้นที่ทำนามาปลูกพืชพลังงานเนเปียร์ เพื่อผลิตไฟฟ้าขายครัวเรือน ราคาหน่วยละ 2.50 บาท ผลิตก๊าซหุงต้ม ถังละ 225 บาท ปุ๋ยยูเรียกระสอบละ 750 บาท โดยรัฐบาลให้หลักประกันกำไรไร่ละ 10,000-14,000 ต่อไร่ต่อปี ซึ่งเบ็ดเสร็จแล้วจะนำไปสู่การปลดหนี้เกษตรกรภายใน 3 ปี

“ไม่มีพรรคไหนมีนโยบายทำให้ประชาชนอย่างยั่งยืนเท่ากับพรรคไทยภักดี พรรคอื่นใช้เงิน แล้ว 4 ปีค่อยมาหาพี่น้อง แต่สิ่งที่พรรคทำแตกต่างกัน” นพ.วรงค์กล่าว

 

นพ.วรงค์กล่าวว่า ความตั้งใจเมื่อได้เข้าไปในสภา จะไปต่อสู้กับนายทุนผูกขาด จะเข้าไปปราบโกงเพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชน ถึงเวลาที่ประชาชน ต้องออกมาช่วยพรรคไทยภักดี วันเข้าคูหา ใช้หัวใจตัดสินใจเลยว่า จะช่วยหมอวรงค์เข้าไปสภา เพื่อผลักดันนโยบายให้บรรลุผลที่ต้องการ พลังต่อสู้ทุนผูกขาดไม่มีพลังไหนเท่ากับพลังประชาชน

พรรคนี้มาแน่ พปชร.เปิดขุนพล 400 เขต ชูแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

วันที่ 30 มีนาคม 2566  พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร.พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค,นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค,นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค นายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีมดูแลการเลือกตั้ง ส.ส.กทม.และแกนนำภาคร่วมงานพร้อมเพรียง และคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านต่าง ๆ  จัดกิจกรรม “เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต ทั่วประเทศ และว่าที่ผู้สมัครสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พร้อมเปิดนโยบายพรรคพลังประชารัฐ”  ร่วมกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 400 เขตทั่วประเทศ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่จะนำนโยบายของพรรคที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ผ่านกลไกนโยบายที่พรรคจะนำเสนอ ทั้งทางด้านสวัสดิการประชารัฐ สังคมประชารัฐ และเศรษฐกิจประชารัฐ ที่มีเป้าหมายให้ประชาชนหลุดพ้นจากความยากจน  มั่นใจได้ว่าทุกนโยบายพร้อมทำได้ทันทีเมื่อได้เป็นรัฐบาล  ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตครอบคลุมทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย ได้มีอาชีพที่มั่นคง มีรายได้ที่ยั่งยืน

 

โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวบนเวทีว่า สวัสดีครับพี่น้องประชาชนที่รักทุกท่านวันนี้ ผมรู้สึก อบอุ่นใจเป็นอย่างยิ่ง การเลือกตั้งในครั้งนี้พรรคพลังประชารัฐ พร้อมแล้วที่จะเข้ามารับใช้ประชาชน ผมอยากจะสื่อสารให้พี่น้องประชาชนชาวไทยทราบว่าคนไทยทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นพี่น้องร่วมชาติ ที่ผ่านมา ประเทศของเราพัฒนาได้ยาก เพราะความขัดแย้ง และความแตกแยก ผมจึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมใจกัน ก้าวข้ามความขัดแย้ง ด้วยความรัก ความเข้าใจเห็นอกเห็นใจ ซึ่งกันและกัน

 

"ผมพร้อม ที่จะประสานประโยชน์ กับทุกฝ่ายพร้อมที่จะนำ ความรัก ความสามัคคีมาสู่ ประเทศชาติ ของเราคนไทย ต้องรักกันสามัคคีกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อสร้างความสงบสุข ความเจริญรุ่งเรืองให้กับ ประเทศชาติ และประชาชน เมื่อเราก้าวข้ามความขัดแย้งได้เราก็จะมีพลัง ที่จะก้าวข้ามความยากจนไปด้วยกัน"

 

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า พี่น้องครับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นนี้เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของท่านทั้งหลายที่จะให้พรรคใดมาบริหารประเทศ พรรคพลังประชารัฐได้นำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากมายดังที่ได้รับชมในวีดิทัศน์ไป เมื่อสักครู่นี้แล้ว ทีมเศรษฐกิจของเราคิดไว้มากมาย การเลือกตั้งครั้งนี้ถ้าเราได้คะแนนมาเป็นที่หนึ่งจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ทันที ขับเคลื่อนนโยบายที่ทำไว้ ทั้งนโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาท ต่อเดือน การลดราคาน้ำมัน ลดราคาแก๊สและลดค่าไฟฟ้า การดูแลคนไทยทุกช่วงวัย ทั้งเบี้ยประชาชน ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป มารดาที่ตั้งท้องตั้งแต่เดือนที่ 5 จะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายจนถึงวันคลอดและดูแล ทารกหลังคลอด จนถึง 6 ขวบ นโยบายในเรื่องน้ำ มีเราต้องไม่มีแล้ง โดยจะพัฒนาแหล่งน้ำ ระบบชลประทานแก้ปัญหา น้ำท่วม น้ำแล้ง น้ำอุปโภคบริโภค น้ำเพื่อการเกษตรส่งเสริม ตนยืนยันว่ามีเราจะไม่มีแล้งอีกต่อไป ส่งเสริมสิทธิที่ดินทำกิน  มีเราต้องมีที่ดินทำกิน ถ้ามีที่ทำกินไม่มีจน จะก้าวข้ามความยากจนได้ เราจะแก้ปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างงาน สร้างรายได้ยกระดับ การศึกษา เศรษฐกิจฐานรากภาคอุตสาหกรรม การคมนาคมและนโยบายอื่น ๆ อีกมากมาย

 

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหายาเสพติด ทั้งการป้องกันปราบปรามและบำบัดฟื้นฟูอย่างจริงจังเราจะปราบปรามผู้มีอิทธิพล อาชญากรรมข้ามชาติการฉ้อโกงออนไลน์ แชร์ลูกโซ่ และหนี้นอกระบบ เราจะทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เราคือครอบครัวเดียวกัน เราจะรักสามัคคีกันเป็นหนึ่งเดียว 

 

“ขอให้เชื่อมั่นผม เชื่อมั่นในพรรคพลังประชารัฐ และผู้สมัครฯ ทั้ง 400 เขต และส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ยืนอยู่ตรงนี้ ผมขอประกาศกับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศว่าพวกเราทำได้ และพร้อมแล้วที่จะรับใช้ประชาชน พี่น้องครับวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. นี้โปรดกาบัตรเลือกพลังประชารัฐ ทั้ง 2 ใบ เลือกทั้งคน เลือกทั้งพรรค เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง และก้าวข้ามความยากจนไปด้วยกัน”พล.อ.ประวิตร กล่าว

 

นอกจากนี้ ภายในงานพรรคพลังประชารัฐ ได้นำเสนอคลิปวิดีโอเกี่ยวกับนโยบายที่จะมุ่งฟื้นเศรษฐกิจและการแก้ไขปัญหาครบทุกมิติให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วย “นโยบาย 3 เร่งด่วน 8 เร่งรัด” โดย “3 นโยบายเร่งด่วน”ประกอบด้วย 1. แก้หนี้ประชาชน ผู้ประกอบการ ให้เบ็ดเสร็จ เติมทุนด้วยวิธีใหม่ ควบคู่สร้างโอกาสใหม่ โดยทำทันที  2. ดูแลสวัสดิการ เสริมทักษะ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  3. การยกระดับคุณภาพชีวิตทุกช่วงวัย 

 

และ “8 นโยบายเร่งรัด” วางรากฐานเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย 1. ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมภาคการเกษตร วิสาหกิจชุมชนเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว 2. ยกเครื่องภาคอุตสาหกรรมเดิม สู่เศรษฐกิจใหม่ในอุตสาหกรรม S-curve เพื่อขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล และเศรษฐกิจ BCG  3. เร่งพัฒนาพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์  ทั้ง อีอีซี และขยายพื้นที่ยุทธศาสตร์ใหม่  4. ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทุกระบบทั้งถนน ราง น้ำ และอากาศ รวมถึงพัฒนาโครงเครือข่าย 5G ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ การต่อยอดพร้อมเพย์ และเป๋าตังค์ ให้คนไทยเข้าสู่ Digital Economy อย่างแท้จริง 5. พัฒนาทรัพยากรมนุษย์รองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ทั้งระดับปวช. ปวส. ให้เรียนฟรีมีงานทำ พัฒนาแพลตฟอร์มเชื่อมแหล่งงาน เพื่อสร้างรายได้ระหว่างเรียน ส่วนแรงงานเดิมจะส่งเสริมเข้าโปรแกรมเพิ่มทักษะให้สอดรับกับอุตสาหกรรมสมัยใหม่  6. ปฎิรูประบบราชการ แก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรค เพื่อส่งเสริมให้เกิดเอสเอ็มอีที่มีความเข้มแข็ง 7. ปฏิรูประบบงบประมาณ กระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่น สู่การพลิกฟื้นเศรษฐกิจ เพื่อเข้าสู่งบประมาณสมดุลในระยะยาว เพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนให้ท้องถิ่นเข้มแข็ง ที่ตอบสนองความต้องการของพื้นที่ได้อย่างตรงจุด  และ 8. ต่อต้านคอร์รัปชั่นเต็มรูปแบบ สร้างระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่ลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ เพิ่มโทษนักการเมืองที่ทุจริตคอร์รัปชันเป็นสองเท่า รวมถึงมีเทคโนโลยีบล็อคเชนที่จะนำมาใช้ในโครงการประมูลภาครัฐขนาดใหญ่

 

ทั้งนี้ บรรยากาศภายในงานได้มีประชาชนที่เดินทางมาจากทุกภาคและในกทม.เต็มความจุอัฒจันทร์ โดยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ต่างเดินทักทาย และถ่ายรูปกับประชาชนที่ถือป้ายไฟส่งเสียงต้อนรับว่าที่ผู้สมัครอย่างสนุกสนาน นอกจากนี้ยังมีศิลปินดารา กลุ่มนางงาม,นายแบบ,อินฟลูเอนเซอร์จากหลากหลายอาชีพ ,LGBTQ,กลุ่มนักแข่งเกมส์ อีสปอร์ต มาร่วมรับฟังนโยบายของพรรค พปชร.ด้วย

ไฟยังไหม้ ที่เชียงใหม่ บริเวณ ตำบลยั้งเมิน - ตำบลแม่สาบ อ.สะเมิง

ไฟไหม้ 2 จุด คือพื้นที่ตำบลยั้งเมิน และตำบลแม่สาบ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ จิตอาสาวัดพระบรมธาตุดอยผาส้ม และชาวบ้านร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยอุทยานฯ นำกำลังเข้าไปดับ แต่ยังไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด

นักเคลื่อนไหวอิสระ บุกไปป่วนเวทีพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวาน (1 เม.ย.)

หลังจากที่กลุ่ม นางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ (ตะวัน) และ นางสาวอรวรรณ ภู่พงษ์ (แบม) นักเคลื่อนไหวอิสระ บุกไปป่วนเวทีพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวาน (1 เม.ย.)

 

โดยพยายามบุกเข้ามาในบริเวณหน้าเวทีปราศรัย พยายามที่จะดันเข้าไปให้ได้ จนกระทั่งเกิดความรุนแรงขึ้น โดยมีการชกต่อยกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกับมวลชน เกิดความวุ่นวาย และสร้างความตกใจให้กับประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัย

 

ชาวเน็ตได้ตั้งข้อสังเกตจากภาพที่ปรากฎอยู่ในคลิป จะมีผู้หญิงอ้วนเสื้อสีฟ้าใช้ถุงดำคลุมหัวเพื่ออำพราง ร่วมทำกิจกรรมด้วย ทราบภายหลังคือ นส.วีรดา (ทนายเฟิร์น) คงธนกุลโรจน์ เป็นทนายความเครือข่ายศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน มาโป๊ะแตก ตอนหน้าร้านแมคโดนัล ราชดำเนิน เปิดตัวว่าเป็นทนาย ตรวจสอบการทำงานของฝ่ายสืบสวน

 

ลุงป้อมทำเมนูสุดพิเศษ

วันนี้ (2 เมษายน 2566) เวลา 11.00 น. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้โชว์ทำกุ้งกระเทียมเพื่อรับประทานเป็นอาหารกลางวัน พร้อมกับทีมงานใกล้ชิด

 

โดยปกติที่ผ่านมา พลเอกประวิตร ก็ชอบที่จะทำอาหารทานและเลี้ยงทีมงานใกล้ชิดโดยทุกคนที่ได้รับประทานจะติดใจฝีมือของพลเอกประวิตรและต้องขอมาลองเมนูอื่นๆอีก

 

ในวันนี้ ขณะทำอาหารซึ่งเป็นกุ้งกระเทียม พลเอกประวิตร มีสีหน้ายิ้มแย้มและอารมณ์ดีด้วยความชอบและรักในการทำอาหาร

 

พลเอกประวิตรกล่าวว่า เมนูนี้เป็นเมนูที่บิดาของพลเอกประวิตรมักจะขอให้ ตนเองทำให้คนในครอบครัวทาน เพราะพลเอกประวิตรทำได้อร่อย จนกลายเป็นเมนูของความรัก ความผูกพันในครอบครัวจนถึงวันนี้

 

โดยในวันอาทิตย์นี้พลเอกประวิตร ได้ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นยี่ห้อมหานครพิมพ์ลวดลายสุดเท่ทั้งตัว สะท้อนความเป็นไทยแบบยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี เป็นลายกุ้ง โดยระบุคำว่า “foodie” ซึ่งแปลว่า นักชิม และคำว่า “good test good quality” ซึ่งหมายความว่า รสชาติดี คุณภาพดี เข้ากับการทำอาหารในวันนี้ เป็นวันอาทิตย์สบายๆ สไตล์ลุงป้อม

 

 


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. North Time Thailand
Take Me Top